ทัวร์ยุโรปคุณภาพ! อิตาลี่ สวิส ออสเตรีย เยอรมัน 9 วัน 6 คืน
Qatar Airways / เดินทางกุมภาพันธ์ - มิถุนายน 63

 
สถานที่ท่องเที่ยว
นครรัฐวาติกัน เที่ยวชมมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สถาปัตยกรรมล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เที่ยวเกาะเวนิส ชมวิวบรรยากาศของเวนิส
แวะเที่ยวมิลาน มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ พร้อมถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งมิลาน
พักเมืองลูเซิร์น  เมืองเล็กๆอันแสนน่ารัก และชมสัญลักษณ์ประจำเมืองลูเซิร์นมี 2 อย่าง คือ สะพานไม้ชาเปล
และ อีกสัญลักษณ์หนึ่งคือ สิงโตหินแกะสลัก
วังหลังคาทองคำ เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรุค
ชม ทะเลสาบโวล์ฟกัง หนึ่งในทะเลสาบที่มีชื่อเสียงของประเทศออสเตรีย
เมืองฮัลล์ทัทท์ เมืองได้ชื่อว่าตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

โปรแกรมนี้คัดกรองมาเป็นอย่างดีเที่ยวครบ  พักดี ทานเยี่ยม ไม่เร่งรีบ ไม่อัดแน่นจนกลายเป็นชะแว๊ปทัวร์!!!!!!!

     



กำหนดวันเดินทาง
 

อิตาลี  สวิตเซอร์แลนด์  ออสเตรีย เยอรมัน 9 วัน

โดย QATAR AIRWAYS

 
อัตราค่าบริการ ผู้ใหญ่
(พักห้องคู่)
พักเดี่ยว
จ่ายเพิ่ม
 
 
วันที่ 3 – 11 ก.พ. (วันมาฆบูชา) 73,999 15,000  
วันที่ 14 – 22 ก.พ. 73,999 15,000  
วันที่ 17 – 25 ก.พ. 73,999 15,000  
วันที่ 21 – 29 ก.พ. 73,999 15,000  
วันที่ 2 – 10 มี.ค. 73,999 15,000  
วันที่ 7 – 15 มี.ค. 73,999 15,000  
วันที่ 13 – 21 มี.ค. 73,999 15,000  
วันที่ 16 – 24 มี.ค. 73,999 15,000  
วันที่ 21 – 29 มี.ค. 73,999 15,000  
วันที่ 30 มี.ค. – 7 เม.ย. (วันจักรี) 73,999 15,000  
วันที่ 27 เม.ย. – 5 พ.ค. (วันแรงงาน) 75,999 15,000  
วันที่ 11 – 19 พ.ค. (วันพืชมงคล) 75,999 15,000  
วันที่ 25 พ.ค. – 2 มิ.ย. 75,999 15,000  
วันที่ 8 – 16 มิ.ย. 75,999 15,000  
วันที่ 22 – 30 มิ.ย. 75,999 15,000  

โปรแกรมเดินทาง
keyboard_arrow_right
วันที่ 1 :: กรุงเทพฯ – โรม(อิตาลี)

17.00 น.

คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ Q สายการบิน QATAR AIRWAYS (QR) สังเกตุป้าย กราเซีย กรุ๊ป เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง

19.35 น.

ออกเดินทางสู่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยเที่ยวบินที่QR 833/ QR 115 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา  บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน

keyboard_arrow_right
วันที่ 2 :: โรม – กรุงวาติกัน – มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ – โคลอสเซียม – น้ำพุเทรวี่– บันไดสเปน –วิหารแพนเธออน – ปิซ่า

05.55 น.

เดินทางถึง สนามบินลีโอนาร์โด ดาร์วินชี่ (ฟูมิซิโน)  หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ กรุงโรม เมืองหลวงของประเทศอิตาลีซึ่งมีอดีตอันยิ่งใหญ่ และเกรียงไกรในยุคจักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจเมื่อราวกว่า 2,000 ปีที่ผ่านมา จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ นครรัฐวาติกัน รัฐอิสระที่ปกครองตนเองเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นำท่านเข้าชมภายใน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สถาปัตยกรรมล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหรา ชมรูปปั้นแกะสลัก “เพียต้า” ผลงานของศิลปินเอก ไมเคิลแองเจโล  เสาพลับพลาที่ออกแบบโดย เบอร์นินี และยอดโดมขนาดใหญ่ซึ่งปัจจุบันเป็นสิ่งล้ำค่าคู่บ้านคู่เมืองของอิตาลีชมร่องรอยของศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โรมัน ฟอรั่ม,จากนั้นคณะแวะถ่ายรูปที่ระลึกด้านหน้า สนามกีฬาโคลอสเซียม โบราณสถานเก่าแก่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เคยเป็นสนามกีฬายักษ์ที่สามารถจุคนได้กว่า 50,000 คน การออกแบบอย่างชาญฉลาดสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาในปัจจุบัน จากนั้นให้ ท่านถ่ายภายคู่กับประตูชัยคอนสแนติน สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและที่มาของ “ ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม ” รถโค้ชนำท่านวิ่งผ่านชมสถานที่ต่างๆรอบกรุงโรม

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน)
จากนั้นนำท่านชม น้ำพุเทรวี่ เป็นน้ำพุที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ชื่อ “เทรวี่” นั้นมาจากคำว่า“ตรีวิอุม” หมายถึงพบกันของถนนสามสาย เป็นอนุสรณ์สไตล์บารอค ออกแบบและก่อสร้างโดย นิโคลา ซาลวี่ ซึ่งองค์สมเด็จสันตะปาปา ครีเมนต์ที่ 12ได้มอบหมายให้สร้างขึ้นในปี 1732 การก่อสร้างดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งภายหลังการสิ้นพระชนม์สมเด็จสันตะปาปาที่ เออร์บัน ที่ 8ได้หยุดชะงักลง และดำเนินการสร้างต่อมาจนแล้วเสร็จในปี 1762 รวม ใช้เวลาทั้งสิ้น 30ปี ทางระบายน้ำ เวอร์โก้ บริเวณลานด้านหน้านั้นก่อสร้างมากว่า 2000ปี ครั้งสมัยโรมโบราณซึ่งปกครองโดยจักรพรรดิออกัสตัส ซึ่ง ตรงเวลา 19 ปี ก่อนคริสตศักราช รูปปั้นแกะสลักที่เลิศหรูอลังการที่อวดโฉมให้ผู้ไปเยือนได้ยลนั้น ได้แนวคิดจากความยิ่งใหญ่ของเทพเจ้าเนปจูน “เทพแห่งท้องทะเล” ว่ากันว่า หากใครที่ได้โยนเหรียญลงไปในน้ำ เขาหรือเธอผู้นั้นจะได้กลับมาเยือนอีกในสักวัน จากนั้นให้คณะได้ถ่ายรูปภาพคู่ บันไดสเปน เป็นบันไดในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ชื่อ Francesco de Sanctis  เชื่อมระหว่าง Piazza di Spagna และ Piazza Trinità dei Monti เป็นบันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป มีขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น ใช้สำหรับเดินเล่นหรือเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ที่ย่าน บันไดสเปน นับว่าเป็นแหล่งพักผ่อนของชาวอิตาลีและ นักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ  นำท่านชม วิหารแพนเธออน เป็นสถาปัตยกรรมสำคัญ สร้างขึ้น โดยจักรพรรดิมาร์คุส วิบซานิอุส อะกริบปา จุดมุ่งหมายในการสร้างไม่ชัดเจนต่อมามีการสร้างใหม่ในสมัยจักรพรรดิฮาเดรียน ใน ค.ศ. 126 และซ่อมใหญ่ในปี ค.ศ. 202 โดยจักรพรรดิ์ เซพติมิอุส เซเวรุส และคาราคาลา การก่อสร้างในสมัยจักรพรรดิฮาเดรียนมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเทวสถานของเทพเจ้าโรมัน 7 องค์หรือเทพแห่งดาวในระบบสุริยะ APOLLOพระอาทิตย์ DIANA พระจันทร์ MARS อังคาร  MERCURY พุธ JUPITER พฤหัส VENUS ศุกร์ SATURN เสาร์ ลักษณะเด่นของตัววิหารคือมีหลังคาทรงกลมและโค้งเป็นครึ่งวงกลมวางอยู่บนเสาหินแกรนิตขนาดมหึมา วิหารมีความสูงถึง 43.3 เมตร รายละเอียดของโดมหลังคาภายในวิหาร รวมถึงโครงสร้างที่แข็งแรงและยืนหยัดมานานกว่าสองพันปี ตั้งแต่คริสต์ษตวรรษที่ 7 เป็นต้นมา วิหารแห่งนี้ถูกใช้เป็นโบสถ์โรมันแคธอริค อุทิศแด่พระแม่มารีและผู้พลีชีพเพื่อศาสนา ออกเดินทางสู่ แคว้นทอสคาน่า เมืองปิซ่า  ท่านจะได้ชมทิวทัศน์อันสวยงามของบ้านเรือนแบบอิตาลีและปราสาทตั้งสูงสง่างามอยู่บนเนินเขา และเป็นแหล่งผลิตไวท์ชั้นดีของเมืองนี้

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารพื้นเมือง สปาเก็ตตี้ต้นตำหรับอิตาลี + อาหารจานหลัก (เมนคอร์ส) + ของหวาน)
พักค้างคืน ณ GALILEI  HOTEL หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

keyboard_arrow_right
วันที่ 3 :: เมืองปิซ่า – หอเอนปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก – เมสเตร้ – นั่งเรือสู่เกาะเวนิส – สะพานถอนลมหายใจ – จัตุรัสซานมาร์โค – วิหารซานมาร์โค

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านชม หอเอนเมืองปิซา 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก  ที่เมืองปีซา   ประเทศอิตาลี  เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสูง 181 ฟุต เริ่มสร้างเมื่อค.ศ.1174 แต่การก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงเมื่อก่อสร้างไปได้ประมาณ 4-5 ชั้น เนื่องจากพื้นดินใต้อาคารเริ่มยุบลงจากการที่รากฐานของอาคารไม่มั่นคงพออย่างไรก็ตามต่อมาได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยเมื่อปีค.ศ.1350ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงบางส่วนของโครงสร้างด้านบนไปจากแผนผังเดิมเพื่อถ่วงดุลกับการเอียงของหอ โดยรวมระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิ้น  176  ปี แต่ตัวหอก็ยังเอนไปจากแนวตั้งฉากถึง14ฟุตปัจจุบันนี้ได้ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมข้างบนแล้ว   เนื่องจากว่าหอจะเอนลงเรื่อยๆ ซึ่งบรรดาวิศวกรกำลังหาทางที่จะหยุดยั้งการเอนและอนุรักษ์ให้มีสภาพเอียงไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ชมไปอีกนานๆ สำหรับหอเอนปิซานี้ภายในมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลายด้วยฝีมือจิตรกรชื่อดังแห่งยุคได้สลักลวดลายไว้สวยงามมาก  ณ  ที่หอเอนปิซาแห่งนี้เป็นที่ที่กาลิเลโอขึ้นไปทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับแรงดึงดูดของโลก

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน (อาหารจีน)

บ่าย

ท่าน เดินทางสู่ เกาะเวนิส – เมรเตร้ เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการกล่าวขานว่าโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก “เมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน” มีเกาะเล็กใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมมากกว่า 400 แห่ง เดินทางสู่ เกาะซานมาร์โค ศูนย์กลางของนครเวนิสระหว่างทางท่านจะได้ชมอนุสาวรีย์ของพระเจ้าวิคเตอร์เอมานูเอลที่ 2 บิดาของชาวอิตาเลี่ยน ให้ท่านได้ถ่ายภาพคู่กับสะพานถอนหายใจ ที่เชื่อมต่อระหว่าง “Doge Palace” ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิซในอดีต อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคสมัยนั้นอีกด้วย ชม จัตุรัสเซนต์มาร์คโค ที่มีโบสถ์เซนต์มาร์คเป็นฉากหลัง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ อิสระเลือกช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของเวนิซตามอัธยาศัย อาทิ เครื่องแก้วมูราโน่ ต้นตำรับของการเป่าแก้วของชาวมูราโน่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาตั้งแต่บรรพชน โดยเครื่องแก้วแต่ละชิ้นมีรูปแบบ และคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก  ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับเมือง เมสเตร้

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร
(อาหารพื้นเมือง พิซซ่าต้นตำหรับอิตาลี+ อาหารจานหลัก (เมนคอร์ส)+ของหวาน)
พักค้างคืน ณ Holiday Inn Venice Mestre Marghera หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

keyboard_arrow_right
วันที่ 4 :: เมสเตร้ – มิลาน – ลูเซิร์น ( สวิตเซอร์แลนด์ )

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางไปยัง เมืองมิลาน เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม นอกจากนี้มิลานยังเป็นที่รู้จักจากประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า ปาเนตโตเน (Panettone) อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึง สโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลาน และ สโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน  ถ่ายรูปกับ มหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน และเป็นวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปั้นนับกว่า 3000 รูป ที่สวยงามไม่แพ้กัน

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน (อาหารจีน)

บ่าย

หลังจากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น เมืองนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า เวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ อันหมายถึงทะเลสาบสี่พันธรัฐ

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ  ณ ภัตตาคาร (ฟองดู ต้นตำหรับสวิตเซอร์แลนด์)
พักค้างคืน ณ  Astoria Lucerne หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3)

keyboard_arrow_right
วันที่ 5 :: พิชิตยอดเขาจุงเฟรา – ถ้ำน้ำแข็ง 1000ปี – สะพานไม้ชาเปล – อนุสาวรีย์สิงโต ( สวิตเซอร์แลนด์ )

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำคณะออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศขึ้นมุ่งหน้าขึ้นสู่หมู่ บ้านกรินเดลวาลด์กรุน เพื่อนำท่านขึ้นรถไฟ สายจุงฟราวบาห์เนน ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์แบบสวิสเซอร์แลนด์ขนานแท้ ที่มีทุ่งหญ้าอันเขียวขจี ดอกไม้ป่าบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ หรือใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ล่วงบ้านหลังน้อยใหญ่ปลูกแบบน่ารักๆทรงสวิสชาเลต์ ฝูงวัวพื้นเมืองที่กระจัดกระจายแทะเล็มหญ้าอยู่ทั่วบริเวณ ลำธารน้ำธรรมชาติเล็กๆที่ใสสะอาดและฉากหลังที่มีภูเขาหิมะตั้งตระหง่านขาวโพลน ซึ่งจะทำให้คณะได้รับความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง พร้อมนำคณะเปลี่ยนบรรยากาศโดยการ นั่งรถไฟชมวิวท่องเที่ยวธรรมชาติบนภูเขาสูงแห่งแอลป์  แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟสายภูเขาที่สถานีไคลน์ไชเด็กรถไฟที่จะนำท่านเดินทางลอดอุโมงค์ที่ชาวสวิสฯได้ขุดเจาะไว้ที่ความสูงถึง 3,464 เมตร จนกระทั่งถึง สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป Top of Europe บนยอดเขาจุงเฟรา ซึ่ง มีความสูง 4,158 เมตร (13,642 ฟุต)  จุดสูงสุดคือลานน้ำแข็งขนาดใหญ่เรียกว่า Sphinx  นักท่องเที่ยวหลายๆคนบอกว่าที่นี่สวยงามดุจดินแดนแห่งสวรรค์ เพราะยอดเขาแห่งนี้ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนตลอดทั้งปี ในปี 2001  อิสระให้ท่านถ่ายภาพความประทับใจตามอัธยาศัยกับแบบจุใจ ไม่มีเร่งรีบ จากนั้นนำท่าน ชม ถํ้านํ้าแข็ง1,000 ปี  ที่สร้างโดยการเจาะธารน้ำแข็งเข้าไปถึง 30 เมตร พร้อมชมน้ำแข็งแกะสลักรูปร่างต่าง จากนั้นชมวิวทิวทัศน์และสัมผัสหิมะที่ลานพลาโต Plateau และไม่ควรพลาดการส่งโปสการ์ดจากที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลกพร้อมซื้อของที่ระลึกต่างๆตามอัธยาศัย...

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวันเมนูที่ดีที่สุด ณ ภัตตาคาร บนยอดเขาจุงเฟรา

บ่าย

นำท่านขึ้น สวิสสฟิงซ์ หรืออาคารสังเกตุการณ์ ที่ความสูง 3,571 เมตร/11,716 ฟิต ท่านสามารถชมวิวได้รอบ 360 องศาจากระเบียงได้ประสบการณ์แสนประทับใจการเดินทางสู่ ยุงค์ ฟราวยอร์ค-หลังคายุโรป ไปแล้วไม่ได้มาจุดชมวิว จุดนี้เหมือนมาไม่ถึง ได้เวลาอันสมควรนำคณะเดินทางลงจากยอดเขา โดยเส้นทางรถไฟอีกด้านหนึ่งเพื่อ เปลี่ยนบรรยากาศ ไม่ให้ซ้ำทางเดิมผ่านเมือง เวนเก้น เมืองที่สร้างบ้านแบบสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีความสวยงามมากจนยากที่จะลืม  แวะเปลี่ยนรถไฟที่สถานีไคลน์ไชเด็คซึ่งบริเวณสถานีนี้ ล้นเกล้ารัชกาลที่5 เคยเสด็จมาแล้ว  จนกระทั่งถึงเมืองเลาเท่นบรุนเน่น (LAUTERBRUNNEN) หลังจากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น นำท่านชม สะพานไม้ชาเปล สัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์นสะพาน  ไม้ที่เก่าแก่มีอายุ หลายร้อยปี  นําท่าน ชม  อนุสาวรีย์สิงโต สัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์และกล้าหาญของชาวสวิสเซอร์แลนด์ ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในคราวปฏิวัติใหญ่ของฝรั่งเศสแกะสลักอยู่บนหน้าผาหิน

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน ณ  Astoria Lucerne หรือเทียบเท่า (คืนที่ 4)

keyboard_arrow_right
วันที่ 6 :: เมืองลูเซิร์น – อินส์บรุค – วังหลังคาทองคำ – เซนต์โวล์ฟกัง (ออสเตรีย)

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินส์บรุค ประเทศออสเตรีย เป็นเมืองหลวงของรัฐทิโรล ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำอินน์ กลางหุบเขาของเทือกเขาแอลป์ เดิมเป็นเมืองตากอากาศของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนแห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ก เพราะอากาศดีมากผู้ที่เข้ามาปกครองจักรวรรดิออสเตรียต่างก็ต้องติดใจมาพักผ่อนในเมืองแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น พระนางมาเรีย เทเรเซีย ผู้ยิ่งใหญ่ หรือแม้แต่นโปเลียน โบนาปาร์ต ระหว่างทางพักผ่อนตามอัธยาศัยเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของสองข้างทางจากนั้นนำท่านชมความร่มรื่นขอ สวนสาธารณะฮอฟการ์เด้น  ถ่ายรูปกับ วังหลังคาทองคำ เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรุค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สำหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล ต่อมาจักรพรรดิ Maximilian ทรงปรับเปลี่ยนโกลเด้นรูฟให้เป็นสไตล์โกธิกผสมบาโร้ก และได้ทรงตกแต่งส่วนของหลังคาที่ยื่นออกมาจากระเบียงด้วยทองคำแท้ จำนวน 2,738 แผ่น เพื่อใช้เป็นที่ทอดพระเนตรเทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นบริเวณจัตุรัสด้านหน้าที่ประทับ ปัจจุบันโกลเด้นรูฟกลายเป็นสำนักงานการประชุมอัลไพน์นานาชาติ เสาสูงอนาซอล จากนั้นให้ท่านได้ช้อปปิ้ง เครื่องแก้วคริสตัน ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังสุดของออสเตรีย ให้ท่านถ่ายรูปบริเวณ River Inn

เที่ยง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร(อาหารจีน)
นำท่านสู่ เมืองซังคท์ โวล์ฟกัง มีชื่อมาจาก เซนต์โวล์ฟกัง (heiligen Wolfgang) เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โดยนำชื่อของนักบุญโวล์ฟกัง ที่มีชีวิตอยู่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 10 และท่านได้สร้างโบสถ์เล็กๆ ขึ้นมาหลังหนึ่งซึ่งปัจจุบันนี้ก็ได้เป็นโบสถ์ประจำเมืองและมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ชม ทะเลสาบโวล์ฟกัง เป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาทางตะวันออกในรัฐซาลซ์บูร์กของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ในแหล่งมรดกโลกซัลทซ์คัมเมอร์กูท

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน ณ Scalaria ( ทุกห้องสามารถเห็นวิวทะเลสาบ)  หรือเทียบเท่า (คืนที่ 5)

keyboard_arrow_right
วันที่ 7 :: ฮัลล์ทัทท์ – ซาลสเบิร์ก – สวนมิราเบล – บ้านโมสาร์ท – นครมิวนิค (เยอรมันนี)

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์ทัทท์ เมืองได้ชื่อว่าตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก  ฮัลล์ทัทท์ เป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบฮัลล์ทัทท์ (Lake Hallstatt) หรือ ฮัลล์ชตัทท์เทอร์ซี (Hallstatter See)  ทะเลสาบในเขตภูมิภาคซาลซ์คัมเมอร์กุท (Salzkammergut) ภูมิภาคทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของประเทศออสเตรีย อิสระให้ท่านเดินชมบรรยากาศตามอัธยาศัย หรือท่านสามารถเข้าไปพิสูจน์ความกล้าที่ ไบน์เอาส์ หรือ โบน์เฮาส์ ซึ่งเป็นอาคารขนาดเล็กที่แยกตัวออกจากคริสตจักรภายในเป็นที่เก็บหัวกะโหลกมากกว่า 1,200 กะโหลกส่วนใหญ่เป็นคนที่เสียชีวิตในศตวรรษที่ 18-19

เที่ยง

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร พิเศษสุดกับ เมนูปลาเทร้า

บ่าย

จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยังเมือง ซาลสเบิร์ก เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดลำดับที่ 4 ในประเทศออสเตรีย และเป็นเมืองหลวงของรัฐซาลซ์เบิร์ก เมืองเก่าของซาลทซ์บูกร์กและสถาปัตยกรรมบาโรกเป็นหนึ่งในใจกลางเมืองที่ถูกดูแลรักษาอย่างดีที่สุดในกลุ่มประเทศที่พูดภาษาเยอรมันด้วยกัน และได้รับการยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ในปี พ.ศ.2540 ซาลซ์เบิร์กเป็นที่จดจำกันในฐานะที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ เมืองแห่งมนเสน่ห์ของเสียงดนตรี และเป็นบ้านเกิดของศิลปินเอก ของโลก โวฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท ถึงซาลส์เบิร์กให้ท่านได้ถ่ายรูปภายใน สวนมิราเบล ที่เคยใช้เป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Sound of  Music จากนั้นนำท่านเดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำซาลซาค ไปยังย่านถนนคนเดิน นำท่านไปถ่ายรูปบ้านโมสาร์ท จากด้านนอก จากนั้นให้ท่านอิสระเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกของฝาก นำท่านเดินทางสู่ ใจกลางนครมิวนิค เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรปเมืองตั้งอยู่บนแม่น้ำอีซาร์ เหนือเทือกเขาแอลป์ )  นำท่านชม จัตุรัสมาเรียนพาซ ย่านใจกลางเมืองเก่าของมิวนิค ที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองเก่าที่งดงามด้วยศิลปะโกธิค และวิหารแม่พระ โบสถ์ใหญ่ที่มีโดมเป็นรูปทรงคล้ายหัวหอมใหญ่   

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำที่ ภัตตาคาร พิเศษกับเมนูขาหมูเยอรมัน+เบียร์
พักค้างคืน ณ Mercure Hotel Munchen Neuperlach Sud เทียบเท่า (คืนที่ 6)

keyboard_arrow_right
วันที่ 8 :: มิวนิค –สนามฟุตบอล อลิอันซ์อลิน่า ( Allianz Arena ) – BMW WELT

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ BMW WELT อาคารสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ภายในจัดแสดงรถยนต์รุ่น ใหม่ทุกรุ่นของบีเอ็มดับบลิว อิสระให้ท่านเดินชมความสวยงามของรถ หรือเลือกซื้อของที่ระลึก จากนั้นนำท่านไปยัง สนามอัลลิอันซ์อาเรนา มีชื่อเล่นว่า "เรือยาง" เป็นสนามฟุตบอลในประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองมิวนิก เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2545 และเสร็จสมบูรณ์เปิดใช้งานเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2548รวมค่าก่อสร้างทั้งหมด 340 ล้านยูโร ปัจจุบันทีมที่ใช้สนามได้แก่ สโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก และเทเอสเฟา1860 มิวนิกให้ท่านได้ถ่ายรูปจากด้านนอกของสนามกีฬาแห่งนี้ และท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกของสโมสรได้ ตามอัธยาศัยจากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน มิวนิคพื่อเตรียมเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

15.50 น.

ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ QR 085 / QR 836  แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา  บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน

keyboard_arrow_right
วันที่ 9 :: ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ( กรุงเทพฯ)

13.15 น.

เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดี...พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

อัตราค่าบริการ และเที่ยวบินการเดินทาง
** ราคาดังกล่าวอาจมีการปรับเปลี่ยนหากสายการบินมีการเรียกเก็บภาษีน้ำมันและภาษีสนามบินเพิ่มเติม **
                             ** โรงแรมในยุโรป ไม่อนุญาตให้เด็กอายุมากกว่า 6 ปีขึ้นไป เข้าพักแบบไม่มีเตียงเสริม **
** รูปภาพในโปรแกรมทัวร์เป็นการตกแต่งเพื่อการโฆษณาเท่านั้น **
***หมายเหตุ : บริษัทฯ ขอสงวนลิขสิทธิ์ในการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงราคากรณีผู้ร่วม      เดินทางน้อยกว่า 20 ท่าน***
สำหรับท่านที่เป็นมุสลิม ,  ทานมังสวิรัติ  , ไม่ทานหมู  , ไม่ทานเนื้อ , ไม่ทานไก่ , ไม่ทานปลา  โปรดแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์
 
* ในกรณีเลื่อนการเดินทางกลับ ท่านจะต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนทำการยื่นวีซ่า ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายแตกต่าง และต้องมีค่าใช้จ่ายในการเลื่อนตั๋ว และเอกสารเพิ่มเติม เช่นเอกสารประกัน,เอกสารโรงแรมที่อยู่ต่อ
***หมายเหตุข้อสำคัญที่ท่านควรทราบ***
1.)ในการยื่นวีซ่า ทางบริษัท จะทำการนัดหมายกับสถานทูตและสถานทูตจะเป็นผู้กำหนดวันและเวลาให้เข้าไปยื่นวีซ่า เป็นการยื่นวีซ่าแบบกรุ๊ปเท่านั้น(ปกติสถานทูตจะให้เข้าไปยื่นวีซ่า 15 วันก่อนเดินทาง)  ซึ่งอัตราค่าใช้จ่ายรวมอยู่ในรายการทัวร์แล้ว
2) ในกรณีที่ท่านไม่สามารถมายื่นวีซ่าตามวันที่บริษัทแจ้งไว้ ทำให้วันยื่นวีซ่าเหลือน้อยกว่า 15 วันก่อนการเดินทาง ท่านจะต้องจ่ายเงินค่าวีซ่าเพิ่มท่านละ 2,600 บาท (Premium + Fast Track) เงินจำนวนนี้ ท่านสามารถจ่ายเงินที่ตัวแทนยื่นวีซ่าด้วยตัวท่านเองในวันที่ท่านยื่นวีซ่า
 
อัตรานี้รวม
1)    ค่าตั๋วเครื่องบิน (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปและกลับพร้อมคณะ (น้ำหนักกระเป๋าใบใหญ่ท่านละ 30 กิโลกรัม / กระเป๋าถือขึ้นเครื่องท่านละ 7 กิโลกรัม)
2)     ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3)    ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง (กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ชั่วโมง/วัน)
4)    ค่า Coach Tax และค่าภาษีผ่านเข้าเมืองต่างๆ
5)     ค่าห้องพักในโรงแรมที่ระบุตามรายการพร้อมอาหารเช้าหรือเทียบเท่า (โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในภูมิประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น, ราคาโรงแรมอาจมีการปรับขึ้นหลายเท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับช่วงงานเทศกาล งานแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลทำให้ต้องมีการเปลี่ยนย้ายเมือง โดยทางบริษัทฯ จะคำนึงถึงความเหมาะสมและผลประโยชน์ของคณะผู้เดินทางเป็นสำคัญ)
6)     ค่าอาหารเลิศรสทุกมื้อที่ระบุตามรายการ
7)     ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
8)     ค่าวีซ่าท่องเที่ยวยุโรปแบบ Schengen (ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมยื่นวีซ่าให้ ไม่ว่าวีซ่าจะผ่านหรือไม่)
9)     ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์
10)       ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลในวงเงิน 200,000 บาท กับ ACE Insurance Limited (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) เท่านั้น ท่านใดต้องการซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติมโปรดติดต่อบริษัททัวร์
 
อัตรานี้ไม่รวม
1)     ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (กรณีต้องการใบเสร็จเต็มรูปแบบ)
2)     ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ
3)     ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษในร้านอาหาร นอกเหนือจากที่บริษัทฯจัดให้ ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ
4)     ค่าน้ำหนักส่วนที่เกิน 30 กิโลกรัม  และมีจำนวนมากกว่า 2 ชิ้น (ระเบียบของสายการบิน)
5)         ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ 20 ยูโรต่อท่าน
6)         ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรป (ท่านละ 15 ยูโร)
***กรุณาพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ และเงื่อนไขการยกเลิกทัวร์ของบริษัท ก่อนท่านทำการจองทัวร์***


เงื่อนไข เงื่อนไขการสำรองที่นั่ง
  • กรุณาจองล่วงหน้าอย่างน้อย  50 วันก่อนการเดินทาง พร้อมชำระงวดแรก 30,000 บาท ยกเว้นช่วงเทศกาลคริสต์มาส / เทศกาลปีใหม่ / เทศกาลสงกรานต์  มัดจำท่านละ 40,000 บาท
  • ส่วนที่เหลือชำระทันทีหรือก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 15 วันไม่ว่าผลของวีซ่าจะออกหรือไม่ออกก็ตาม มิฉะนั้นจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ
  • การยกเลิกต้องแจ้งล่วงหน้า 50 วันก่อนเดินทาง มิฉะนั้นทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินงวดแรก (ท่านละ30,000บาท) ยกเว้นช่วงเทศกาลคริสต์มาส / เทศกาลปีใหม่ / เทศกาลสงกรานต์  มัดจำท่านละ 40,000 บาท
  • กรณียกเลิกการเดินทางภายใน 30-20 วัน บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขอหัก 50 % ของราคาทัวร์
  • กรณียกเลิกการเดินทางภายใน 19 - 11 วัน บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขอหัก 80 % ของราคาทัวร์
  • กรณียกเลิกกะทันหันก่อนการเดินทางไม่เกิน  10 วัน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่ได้ชำระไปแล้วจำนวนมาก บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินทั้งหมดไม่ว่ากรณีใดๆ
  • ทางบริษัทจะทำการยื่นวีซ่าของท่านก็ต่อเมื่อในคณะมีผู้สำรองที่นั่งครบ 15 ท่าน และได้รับคิวการตอบรับจากทางสถานทูต เนื่องจากบริษัทจะต้องใช้เอกสารต่างๆที่เป็นกรุ๊ปในการยื่นวีซ่า อาทิ ตั๋วเครี่องบิน , ห้องพักที่คอนเฟิร์มมาจากทางยุโรป ,ประกันการเดินทาง ฯลฯ ทางท่านจะต้องรอให้คณะครบ 15 ท่าน จึงจะสามารถยื่นวีซ่าให้กับทางท่านได้อย่างถูกต้อง
  • ในการยื่นวีซ่า ท่านจะต้องเดินทางมายื่นวีซ่าด้วยตัวเอง ตามวัน และเวลานัดหมายจากทางสถานทูต เพื่อมาสแกรนลายนิ้วมือ โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยดูแล และอำนวยความสะดวก
  • เอกสารต่างๆที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กำหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กำหนด ท่านที่มีความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูตต้องการ เพราะจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอำนวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้พิจารณาว่าวีซ่าให้กับทางท่าน
  • กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณา และคณะสามารถออกเดินทางได้ ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้
- ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้นแม้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณา
- ค่าธรรมเนียมวีซ่า ค่าดำเนินการและ ค่าบริการ  4,500 บาท
- ค่าตั๋วเครื่องบินที่ออกมาจริง ณ วันยื่นวีซ่า ซึ่งตั๋วเป็นเอกสารที่สำคัญในการยื่นวีซ่า หากท่านไม่ผ่านการพิจารณา ตั๋วเครื่องบินถ้าออกตั๋วมาแล้วไม่สามรถ REFUND ได้เนื่องจากบริษัทจองตั๋วเป็นตั๋วกรุ๊ปซึ่งตั๋วกรุ๊ปจะไม่สามรถ REFUND คืนได้
- ค่าห้องพักในทวีปยุโรป ถ้าคณะออกเดินทางได้ และท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่า ทางโรงแรมจะต้องยึดค่าห้อง 100% ในทันที
หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่า แล้วยกเลิกการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
  • ในกรณีที่ทางบริษัทขอเอกสารเพิ่มเติมแต่ท่านไม่ส่งเอกสารตามที่ขอมาให้ทางบริษัท / เอกสารของท่านไม่น่าเชื่อถือ / มีการปลอมแปลงเอกสาร / มาไม่ทันเวลานัดหมายตามที่สถานทูตกำหนด (มาสาย) / ไม่รับโทรศัพท์สถานทูต / การใช้คำพูดไม่สุภาพกับสถานทูต และส่งผลทำให้วีซ่าไม่ผ่านการพิจารณาจากสถานฑูต ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินให้ท่าน
  • กรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งที่กรุงเทพฯ และในต่างประเทศปฏิเสธมิให้เดินทางออกหรือเข้าประเทศที่บริษัทระบุใน รายการเดินทาง  บริษัทของสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมดไม่ว่ากรณีใด ๆ
  • ทางบริษัทเริ่มต้น และจบ การบริการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และจะสำรองตั๋วเครื่องบิน หรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้นท่านควรจะให้กรุ๊ปคอนเฟิร์ม 100% ก่อนที่จะสำรองยานพาหนะ

หมายเหตุ หมายเหตุ 
1. กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจากการล่าช้า (ดีเลย์) ของทางสายการบิน การนัดหยุดงานหรือการก่อจราจล ภัยธรรมชาติ   รถติด  ทำให้ไม่สามารถกิน-เที่ยวและพักโรงแรมได้ครบถ้วนตามโปรแกรมทัวร์ที่ระบุ ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะไม่คืนค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะถือเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นโดยตรงจากทางสายการบิน และทางบริษัทฯ ไม่ได้รับค่าชดเชยใด ๆ ทั้งสิ้นจากทางสายการบิน แต่ทางบริษัทฯ จะคงไว้ซึ่งผลประโยชน์สูงสุดที่ลูกค้าพึงจะได้รับอย่างเต็มความสามารถ
2.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง หรือยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการได้ตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า และสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยวในกรณีที่มีเหตุจำเป็นสุดวิสัย โดยจะพยายามให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับท่าน
3.ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการบางอย่างตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของสายการบิน สภาพทางการเมือง ภัยธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีคิวยาวจนทำให้โปรแกรมต่อไปเสียหาย แต่ยังคงจะรักษา มาตราฐานการบริการ และประโยชน์ของลูกค้าทุกท่านไว้เหมือนเดิม
4.ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ว่าบางส่วนหรือ ทั้งหมด อาทิเช่น พาสปอร์ต, ของมีค่า, กระเป๋าเงิน, กระเป๋าเดินทาง เป็นต้น
เอกสารประกอบการขอวีซ่าอิตาลี
 
เอกสารประกอบการขอวีซ่าทัวร์ (ใช้เวลาพิจารณาวีซ่า 15 วันทำการ และต้องมาแสดงตนที่สถานฑูต)
1.  หนังสือเดินทางที่เหลืออายุใช้งานได้เกิน 6 เดือนขึ้นไป ถ้ามีหนังสือเดินทางเล่มเก่ากรุณาแนบมาด้วย ต้องมีหน้าว่างเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้า
2. รูปถ่ายปัจจุบันหน้าตรง 2x1.5 นิ้ว จำนวน 2 รูป (ใช้รูปสี พื้นฉากหลังสีขาวเท่านั้น อายุรูปไม่เกิน 6 เดือน เหมือนกันทั้ง 2  รูป) และกรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลตัวบรรจงไว้ด้านหลังรูป ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ หรือ บิ๊กอายในการถ่ายรูป / ห้ามใส่เครื่องประดับในการถ่ายรูป
3. สำเนาทะเบียนสมรส / สำเนาทะเบียนหย่า / สำเนาใบมรณะบัตร/ สำเนาใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล/ เอกสารเพิ่มเติมกรณีอื่น ๆ 
4. สำเนาบัตรประชาชน 
5. สำเนาทะเบียนบ้าน
6. สำเนาสูติบัตร (สำหรับเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์) 
7. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: เดินทางต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ 
7.1 เด็กเดินทางกับบุคคลอื่น บิดามารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เดินทางกับใคร มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว (พ่อและเม่ต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.2 เด็กเดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา)  (แม่ต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.3 เด็กเดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)  (พ่อต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.4 กรณีพ่อและแม่หย่าร้าง หรือเสียชีวิต ต้องแนบใบหย่า หรือ ใบมรณะบัตร เพื่อเป็นการยืนยัน
7.5 ให้แนบสำเนาพาสปอร์ตของพ่อ และ แม่ (หากไม่มีให้แนบสำเนาบัตรประชาชนของพ่อและแม่)
7.6 เด็กอยู่ในความปกครองของบิดาหรือมารดาเพียงคนเดียว จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น สำเนาใบหย่า พร้อมทั้งบันทึกการหย่าซึ่งแสดงว่าเป็นผู้รับผิดชอบเด็ก เด็กอยู่ในความปกครองของผู้อื่น จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น หนังสือรับรองบุตรบุญธรรม เป็นต้น พร้อมแนบหลักฐานของบิดาหรือมารดาหรือผู้ที่เด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น 
8. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน เป็นภาษาอังกฤษ) ฉบับจริงเท่านั้น**จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูต) ไม่ต้องระบุวันลา และประเทศที่เดินทาง ( ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน )
8.1 กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ ( สำเนาอายุไม่เกิน 3 เดือน )
8.2 กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า ( สำเนา)
8.3 กรณีที่เป็นพนักงานบริษัทฯ : จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุชื่อ-นามสกุล , ตำแหน่ง , วัน/เดือน/ปีที่เริ่มทำงาน , เงินเดือน ในจดหมายต้องมีหัวกระดาษบริษัทและตราประทับบริษัทด้วย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ( ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน )
8.4 กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ( ใส่ปี เป็น ค.ศ. เท่านนั้น ห้ามใส่ปีเป็น พ.ศ.) ( ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน )
8.5 กรณีเกษียณอายุราชการ ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
8.6 กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษานั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ระบุชั้นปีที่ศึกษา พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น / พร้อมสำเนาบัตรนักเรียน นักศึกษา  ( ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน )
8.7 กรณีเป็นแม่ค้า, ทำธุรกิจส่วนตัว, ทำอาชีพอิสระ ต้องพิมพ์จดหมายรับรองตัวเอง เป็นภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งแนบรูปถ่ายสถานที่ทำงานมาด้วย รูปถ่ายอย่างน้อย 3-5 ใบ 
9.  หลักฐานการเงิน (บัญชีออมทรัพย์เท่านั้น)
9.1  สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เท่านั้น พร้อมหนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร (BANK CERTIFICATE) เป็นภาษาอังกฤษ **ต้องเป็นบัญชีเดียวกันเท่านั้น**   (กรุณานำสมุดเงินฝากเล่มจริงมาวันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
  • เงินฝากออมทรัพย์ (ยอดเงินในสมุดบัญชีธนาคาร ต้องมีไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ต่อการยื่นวีซ่า 1 ท่าน และ ต้องมีการเข้าออกของเงินสม่ำเสมอ ห้ามทำการโอนเงินเข้าไปในครั้งเดียวเป็นยอดใหญ่ก่อนการยื่นวีซ่าเด็ดขาด!!)
**ถ้าในสมุดบัญชีธนาคารการเงินไม่ได้อัพเดททุกเดือนรบกวนให้ขอสเตทเม้นจากธนาคาร (ขอสเตทเม้นเป็นภาษาไทย)**
  • การปรับสมุดบัญชีธนาคาร ท่านต้องปรับสมุดถึงเดือนปัจจุบัน และ ถ่ายสำเนาย้อนหลัง 6 เดือน โดยการปรับยอดสมุดในบัญชี ต้องปรับสมุดก่อนวันที่จะยื่นวีซ่า 7 วัน เช่นท่านได้คิวยื่นวีซ่าวันที่ 18 กันยายน 2557 สำเนาสมุดบัญชีที่ท่านต้องใช้ในการยื่นวีซ่า ต้องปรับสมุด ณ วันที่ 12 กันยายน 2557 หรือ หลังจากนั้น หากท่านปรับสมุดบัญชีก่อนหน้านั้น จะใช้เป็นเอกสารแสดงหลักฐานทางการเงินไม่ได้ สถานฑูตจะขอเอกสารเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถส่งเอกสารมาทางบริษัททัวร์ฯ เพื่อเตรียมการล่วงหน้า และ ส่ง Fax สมุดบัญชีหน้าสุดท้ายที่ได้ทำการปรับสมุดมาให้ทางบริษัททัวร์ เพื่อใช้ในการแนบเป็นเอกสารยื่นวีซ่าต่อไปได้  หรือ ถ่ายเอกสารหน้าที่ปรับสมุดภายใน 7 วัน และถือมาเพิ่มเติมในวันที่ยื่นวีซ่า
  • การขอหนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร (BANK CERTIFICATE)  (ขอเป็นภาษาอังกฤษ) ต้องมีอายุไม่เกิน 15 วัน นับจากวันที่ได้คิวยื่นวีซ่า พร้อมทั้งต้องระบุ จำนวนเงินเป็นตัวเลขลงในหนังสือรับรองด้วย เช่นท่านได้คิวยื่นวีซ่าวันที่ 18 กันยายน 2557  หนังสือรับรองการเงินจากทางธนาคารที่ใช้ในการยื่นวีซ่า ต้องออกให้ ณ วันที่ 4 กันยายน 2557  หรือ หลังจากนั้นเท่านั้น  จดหมายรับรองจากธนาคารให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูต) โดยไม่ต้องระบุวัน และประเทศที่เดินทาง (ชื่อในหนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร (BANK CERTIFICATE)  จะต้องถูกต้องและตรงตามหน้าพาสปอร์ต วันที่ขอหนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคารให้นำสำเนาหน้าพาสปอร์ตไปด้วย เพื่อไม่ให้ผิดพลาดในการออกเอกสาร)
****** สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ******
10.  ในกรณีที่มีผู้รับรองค่าใช้จ่าย ต้องมีเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ 
10.1 จดหมายจากผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น – หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ของผู้เดินทางกับผู้รับรองค่าใช้จ่าย เช่น ทะเบียนบ้าน และต้องเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน (พ่อ, แม่ สามารถรับรองค่าใช้จ่ายให้บุตรได้ / สามี ภรรยา ที่จดทะเบียนสมรส รับรองให้กันและกันได้ / (ปู่, ย่า, ตา, ยาย, ลุง, ป้า, น้า, อา ไม่สามารถรับรองค่าใช้จ่ายให้หลานได้)
- กรณีเป็นสามีภรรยากันแล้วไม่ได้จดทะเบียน และรับรองค่าใช้จ่ายกัน ต้องใช้เอกสารดังนี้
  • เขียนจดหมาย decare เป็นภาษาอังกฤษ มาว่าอยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้จดทะเบียนกัน
  • กรณีมีลูกด้วยกัน ให้ใช้ใบเกิดของลูก
10.2 กรุณาแนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากตามข้อกำหนดในข้อ 9 ที่จะใช้ยื่นวีซ่า 1 ชุดของผู้รับรองค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งใน หนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร (BANK CERTIFICATE) ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองค่าใช้จ่ายด้วย
11. ผู้สูงอายุที่มีอายุเกินกว่า 70 ปี บริบูรณ์กรุณาแนบใบรับรองแพทย์ว่าสามารถเดินทางได้เพื่อเป็นเอกสารประกอบการยื่นวีซ่า
12. กรณีผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศ จะต้องยื่นขอวีซ่าอิตาลี ณ ประเทศที่ท่านกำลังศึกษาอยู่
*** รายละเอียดเอกสารการยื่นขอวีซ่าที่ได้กล่าวมานี้ เป็นเพียงข้อเบื้องต้นที่ทางบริษัทฯ ได้จัดทำขึ้นจากประสบการณ์และระเบียบของสถานทูต ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่สถานการณ์และคุณสมบัติของลูกค้า
 
วันที่มายื่นวีซ่ากรุณานำสมุดบัญชีธนาคารเล่มจริงมาด้วย (กรณีมีเล่มต่อจากสมุดเดิมรบกวนนำเล่มเก่ามาด้วย)
เอกสารทุกอย่างที่เป็นสำเนา เช่น ทะเบียนบ้าน , ทะเบียนสมรส , ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล , สูติบัตร , นำตัวจริงมาวันที่ยื่นวีซ่าด้วย
 
***** สำหรับคนที่จะใช้เล่มไปที่อื่นก่อน สถานทูตจะไม่ให้ดึงเล่มไม่ว่ากรณีใด ๆ *****

จองทริปนี้

กรุณากรอกข้อมูลด้านล่างให้ครบถ้วนเพื่อความรวดเร็วในการติดต่อกลับไปหาท่าน

ติดต่อเรา
MERRYLAND TRAVEL SERVICE CO., LTD.
1270-1272 ถ.พระราม4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทร. 082-453-9198, 063-190-9988
อีเมลล์ merrylandtravel.th@gmail.com
ใบอนุญาตเลขที่ 11/00183

 


certified member of
Copyright 2015 © Marrytravel. All rights reserved by siam-webdesign